[Review] Dark Soul 3 ส่งท้ายตำนานผู้กล้าแห่งกองเพลิง

Toodidgames

ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อปี พ.ศ.2559 ทางผู้จัดจำหน่ายอย่าง “Bandai Namco Entertainment” ได้ออกมาเปิดตัวพร้อมกับวางจำหน่ายเกมที่ใครหลายคนต่างรอคอยกันมานานอย่าง “Dark Soul 3” (ถูกพัฒนาโดยทีม FromSoftware) เป็นเกมแนว Action RPG ซึ่งเกมในภาคนี้ถือได้ว่ามีความสมบูรณ์มากที่สุด แถมยังเป็นภาคส่งท้ายของซีรีส์เกมตระกูล “Dark Soul” ที่ก่อนหน้าถูกพัฒนามาแล้วถึง 2 ภาคด้วยกัน สำหรับเกม Dark Soul 3 นี้ได้ถูกวางหน่ายเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2559 บนแพลตฟอร์มเพลย์สเตชั่น 4 ,Xbox One,PC และถึงแม้ว่าเกมดังกล่าวจะมีออกมาให้เราได้สัมผัสความสนุกกันไปได้หลายปีแล้วก็ตาม แต่ในปัจจุบันก็ยังคงมีความนิยม อีกทั้งยังเป็นที่จดจำของเหล่าเกมเมอร์หลายๆ คนทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

ตัวอย่างเกม Dark Soul 3

ขอบคุณคลิปจาก PlayStation

ในส่วนเนื้อเรื่องของเกมนี้ ค่อนข้างจะมีความซับซ้อน สามารถเข้าใจได้ยาก แต่เดี๋ยวเราจะมาสรุปเนื้อเรื่องแบบโดยย่อให้ทุกคนได้ฟังกัน ก็จะเป็นเรื่องราวที่มีการดำเนินเรื่องในแบบที่คุ้นเคย โดยตัวละครเอกที่มีชื่อว่า “Unkindle” ได้ตื่นขึ้นมาในโลกที่กำลังจะล่มสลายหายไป เขาจึงต้องเดินทางออกตามหา Lords of Cinder ทั้ง 4 ที่หายตัวไป ประกอบไปด้วย (Nito ผู้ใช้หมอกพิษ) (Witch of Izalith กูรูแห่งเพลิง) (Gwyn ผู้ใช้สายฟ้า) (Furtive Pygmy ผู้ครอบครองวิญญาณมืด) เพื่อกำหนดชะตาของโลกด้วยการเลือกว่าจะต่อชีวิตแห่งไฟหรือจะทิ้งให้โลกต้องจมลงไปสู่ความมืดมิด

รูปแบบ,วิธีการเล่น : Dark Soul 3 คือเกมแนว Action RPG แบบ Openworld ในภาพมุมมองบุคคลที่3 ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็นตัวละครเอกอย่าง “Unkindle” เพื่อออกเดินทางตามหา Lords ทั้ง4 โดยผู้เล่นสามารถปรับเปลี่ยนหน้าตาและเลือกสวมใส่เสื้อผ้าอาวุธหลากหลายชนิดของตัวละครได้ตามที่ต้องการ ซึ่งอุปกรณ์แต่ละชิ้นจะมีค่า Status ค่าพลังที่แตกต่างกันออกไป เช่น Knight – เน้นพลังป้องกัน,Warrior – เน้นพลังโจมตี เป็นต้น ผู้เล่นจะได้เผชิญหน้ากับศัตรูแบบหลากหลาย จะต้องต่อสู้โจมตีกันแบบดุเดือดเลือดพล่านทั้งในระยะประชิดและระยะไกล ด้วยอาวุธและท่วงท่าที่หลากหลาย รวมไปถึงการใช้เวทย์มนต์ ที่พิเศษไปกว่านั้นคือภาคนี้ยังมีโหมด PvP ให้ผู้เล่นได้สัมผัสความมันแบบการต่อสู้ร่วมกับผู้อื่นได้อีกด้วย

ในส่วนของกราฟิก ทั้งตัวละคร ฉากวิวทิวทัศน์ ตัวอาคารบ้านเรือนต่างๆ ก็สามารถทำออกมาได้สมจริง เหมือนกับเราได้เข้าไปอยู่ในดินแดนของ Dark Soul 3 ยังไงยังงั้นเลยละครับ สุดท้ายนี้สำหรับใครที่ยังไม่เคยเล่น ก็อยากให้ลองซื้อมาสัมผัสความสนุกกันดู รับรองว่าภายในเกมจะมีอะไรมากมายให้คุณได้เพลิดเพลินกันแบบไม่มีเบื่อเลยอย่างแน่นอน

Next Post

[Review] Devil May Cry 5 การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ สมความคาดหวัง

สำหรับซีรีส์เกมตระกูล “Devil May Cry” เชื่อว่าเป็นเกมที่เหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกจะต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่นอน ซึ่งเป็นเกมแนวแอ็คชั่นต่อสู้ที่มีการพัฒนาออกมาได้หลายปีแล้ว แถมยังทำออกมาหลายภาคแล้วด้วยเช่นกัน จนมาเมื่อปี2019 ทางค่ายผู้พัฒนาเกมชื่อดังอย่าง “ […]

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

เฟสบุ้คแฟนเพจ : ตุ๊ดติดเกม